แบบฝึกหัดรักบทที่ 13

Go to download
#1

ติดกันเป็นลูกโซ่
ก็อกๆๆ

"เคนสุเกะ กินข้าวหน่อยเถอะน่ะลูกแม่ขอร้อง"

"ไม่ ผมไม่หิว ไม่อยากกิน..."

"เฮ้อ..."

หญิงสาววัยกลางคนยืนนิ่งเศร้าอยู่หน้าห้องลูกชายของเธอ หรือเรียกว่าลูกสาวก็ได้ ลูกคนเดียวที่เธอแสนรักนักหนา ทำยังไงก็ไม่ยอมทานข้าวปลาหรือซูชิสุดโปรดเลยแม้แต่น้อย ทั้งขอร้อง ทั้งตวาด ทั้งเสนอซื้อของอะไรก็ได้ที่อยากได้(แต่อยู่ในงบ) แต่คำตอบนั้นคือ "ไม่" อย่างเดียว คนเป็นแม่หมดปัญญาแก้ไขเรื่องที่เกิดขึ้นอีกต่อไปเพราะลูกตัวดีไม่ยอมบอกอะไรเลยแม้แต่น้อย ไม่ยอมแม้แต่ให้เธอเข้าไปในห้อง

จะให้แม่ขาดใจตายก่อนหรือไง ลูกถึงจะยอมบอกปัญหาน่ะ

น้ำตาแห่งความรักคลออยู่ใต้ตาก่อนที่เดินจากไป

เคนสุเกะไม่ยอมทานข้าวปลามาเป็นเวลามากกว่าสามวันแล้ว ไม่ยอมรับโทรศัพท์ ไม่ไปโรงเรียน ไม่ทำอะไรทั้งนั้นเอาแต่กกตัวอยู่ในห้องคนเดียว ร่างกายของเขาตอนนี้ซูบผอมไปมากกว่าเเดิม จากที่ไม่ค่อยมีเนื้ออยู่แล้ว ตอนนี้เหมือนหนังหุ้มกระดูก ไปเอาโครงกระดูกจากห้องแล็ปหุ้มด้วยถุงพลาสติกแล้ววางไว้บนที่นอน นั้นแหละใช่เลยกับสภาพของเด็กชายในตอนนี้ ดวงตาสีดำที่เคยสดใสร่าเริงกลับกลายเป็นสีแดง ขอบตาก็กลายเป็นสีดำจากการร้องไห้ทั้งคืน ตรงช่วงแขนมีรอยข่วนเลือดไหลเป็นทาง เล็บใครหรือ เล็บตัวเขาเองต่างหาก

ของในห้องกระจัดกระจายไปทั่วพื้น คอมพิวเตอร์สุดโปรดก็โดนอะไรไม่รุ้ขว้างใส่แตกไปเรียบร้อยแล้ว คีย์บอร์ดโดนหักครึ่งพังไม่มีชิ้นดี พูดง่ายๆ ทุกอย่างในห้องพังหมด นอกจากกล่องสีเงินใบนึง

กล่องที่เก็บจดหมายทั้งหมดเอาไว้

เนื่องจากเคนสุเกะไม่ยอมออกจากนอกห้อง ไม่รับโทรศัพท์ นานะเลยโทรคุยไม่ได้ โดยเฉพาะเด็กชายนึกว่านานะลืมเขาไปแล้ว ใยจะต้องรับโทรศัพท์อีกแม้ว่าคนเป็นแม่อธิบายว่าทำไมไม่ได้รับจดหมายก็ตาม เด็กชายก็คิดว่ามันคือการโกหกที่ม่เขาสร้างขึ้นเพื่อให้เขาออกจากห้อง และการกระทำนี้ก็ต่อเป็นลูกโซ่ต่อไปอีกหลายๆคน เช่น สตีเว่น ตัวต้นเหตุที่ยังโดนเกลียดไม่หาย ยิ่งโดนเกลียดหนักกว่าเดิมเมื่อนานะรู้ว่าเคนจังไม่ยอมรับสายเพราะเรื่องจดหมาย และอีกหนึ่งคนที่ตอนนี้ก็ปางตายไม่แพ้กัน

จำได้ไหมว่าใครคือ ตัวต้นเหตุอีกคน

ทาเคชิ

ดวงตาแดงคล้ำเห็นร่างสูงอยู่ทุกวัน วันล่ะสามเวลาที่หน้าบ้านของเธอ รุ่นพี่หนุ่มจะมายืนรอเด็กสาวตอนเช้า กลางวัน และเย็น ตากฝนตากแดด ตากจนตัวเขาเองนั้นซีดขาวเหมือนผีเดินกลางวันได้ ความรู้สึกผิดทำให้ทาเคชิไม่สามารถทานข้าวไปได้มากกว่าสามคำ ไม่ไปเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายเลย มีเวลาเมื่อไหร่เขาจะมาเฝ้าหน้าบ้านอยู่อย่างนี้ ซึ่งก็ไร้ค่าสิ้นดี ทางเด็กสาวไม่ได้มีความรู้สึกอะไรอีกแล้ว มีแต่ความเศร้าโศกเต็มหัวใจทั้งสี่ห้อง แล้วล้นอีกต่างหาก

และลูกโซ่ถัดไป

มาเรีย รุ่นพี่มินามิ มิยาโกะ โทโมโยะ และ นายโชทาโร่ ทั้งห้านั้นกระวนกระวายว่าเพื่อนรัก คนรัก รุ่นน้องสุดน่ารัก และเครื่องเล่นระบายความใคร่สุดเลิฟนั้นหายไปไหน เป็นอะไรไป แต่ล่ะคนก็มีวิธีหาผลลัพท์กันคนล่ะแบบ

มาเรียเอาแต่นั่งปลอบนานะทุกวันๆ และตามไปด่าทอสตีเว่นทุกครั้งที่มีโอกาศ แถมกระทำชำเราด้วย

รุ่นพี่สุดบึ้มมินามิก็ตระเวนหาตัวคนที่ทำให้รุ่นน้องเธอเป็นอย่างนี้ ซึ่งก็ได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ จากผู้ชายล้วนๆ แต่ก็ไม่รุ้ว่าอดีตรุ่นน้องสุดเลิฟของเธอนี่เองที่เป็นตัวการ ไร้สาระ

มิยาโกะ รายนี้ใช้เงิน เงิน และ เงิน ..........จบลงที่ไร้ค่าและเสียตังค์โดยเปล่าประโยชน์

โทโมโยะ ขานี้ทั้งปลอบทาเคชิและแช่งเคนสุเกะในเวลาเดียวกัน ถ้าไปบ้านหล่อนคงเห็นตุ้กตาฝางตอกด้วยตะปูเป็นร้อยๆตัว ทุกตัวมีเส้นผมและชื่อเคนสุเกะติดอยู่ ถ้าเอาไปขายให้!กินคงได้เป็นหมื่นๆเยน

และนายโชทาโร่ รายนี้มีความคิดดีที่สุด เจ้าคุณเล่นส่งนางบำเรอไปประเคนถึงที่บ้าน ไม่ใช่ไปหาที่ไหน แต่เป็นพวกสาวๆที่โดนโชทาโร่หลอกว่า "ถ้าไปปลอบเคนสุเกะได้น่ะ เธอได้เป็นแฟนเขาแน่ๆ" แต่ก็เช้งโบ้งกลับมาทุกราย

ทั้งห้าแทบจะหมดปัญญาช่วย อาการห่อเ!่ยวส่งผลให้เห็นชัดในเวลาแต่ข้ามคืน มิยาโกะไม่ยอมพูดกับใครอีกแม้ว่าเมื่อก่อนเธอก็ไม่พูดกับใครอยู่แล้ว มาเรียเอาแต่ด่าๆและหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นญาติผู้น้องตัวเอง โทโมโยะกลับกลายเป็นอันตพาลสุดสวยตามข้างทางไล่กัดรุ่นน้องทุกคนที่ เธอคิดว่าแอบมองเธอ โชทาโร่ก็จากจืดอยู่แล้วตอนนี้ก็กลายเป็นจืดจางกลมกลืนไปกับกำแพง คนในห้องนึกว่านักเรียนหายไปสองคนทุกครั้งคราไป คนที่เศร้าน้อยที่สุดคงเป็นรุ่นพี่มินามิที่แค่เหงาอก ไม่มีที่ตั้งมาให้วางระหว่างกินข้าวแค่นั้นเอง

และลูกโซ่ที่เล็กลงเรื่อย ๆ

พวกแฟนคลับของเคนทาโร่ ทาเคชิ โทโมโยะ และ มิยาโกะนั้นเอง นี้ก็ประมาณ70%ของนักเรียนทั้งโรงเรียน ซึ่งหงุดหงิดกันหมด

ม็อบฆ่ากันอาจจะเกิดขึ้นได้เร็วๆนี้เมื่อแฟนคลํบโทโมโยะและทาเคชินั้นทราบว่าเพราะเคนสุเกะ นั้นเองที่ทำให้ดาวของพวกเขาซึมอย่างนี้ แฟนคลับทั้งสองเลยหาเรื่องกับแฟนคลับของเคนสุเกะทุกครั้งที่เจอหน้ากัน แต่กลุ่มของเคนสุเกะไม่แพ้ง่ายๆเพราะกลุ่มมิยาโกะแบคอัพไว้อยู่ ส่วนพวกที่ชอบทั้งสี่คน นั่งเอนจอยดูหมากัดกันตามทางเดินทุกวัน ทางโรงเรียนเลยต้องจำใจเข้ามาร่วมมือในการแก้ปัญหาครั้งก่อนที่จะสายเกินไป ถ้าโรงเรียนพังพวกครูกับอาจาร์ยใหญ่ก็ซวยเป็นคนแรกเลย

และโซ่อีกหลายๆต่อ ไม่รวมกับโซ่ที่จูงหมาน่ะ
ปึงๆๆๆ!!!

"เคนสุเกะ พ่อจะทนไม่ไหวอีกแล้วน่ะ ออกมาหรือจะให้พ่อพังประตูเข้าไป!!"

"พ่ออย่ามายุ่ง ผมไม่อยากไปไหนทั้งนั้น อย่ามายุ่งกับผม!!"

เด็กชายตระโกนกลับไปทันที แต่มันกลับทำให้พ่อของเขายิ่งเป็นห่วงเข้าไปใหญ่เมื่อ เสียงที่ดังออกมามันแหบพร้าสิ้นดี

"เคนสุเกะ พ่อจะเตือนเป็นครั้งสุดท้ายแล้วน่ะ"

"ไม่!! แค้กๅๅ.."

ตูม!!

ประตูพังโครมลงมาทันที

เด็กชายตกใจตาเหลือกทันที รู้ว่าพ่อตัวเองเป็นยูโดสายดำน่ะ แต่ไม่คิดว่าแรงถีบจะเยอะขนาดนั้น ผู้เป็นพ่อก็ตาเหลือกไม่แพ้กัน ลูกชายกึ่งสาวที่เคยอุดมสมบูรณ์ กลับกลายมาเป็นมัมมี่แพนด้าอย่างนี้ แถมห้องยัง..

ตุบ!!

ไปซะแล้วคุณแม่ที่น่ารักของเรา เจ้าหล่อนสลบทันทีที่เห็นสภาพลูกตัวเอง

"ไป วันนี้ยังไงพ่อต้องเห็นลูกกินข้าวให้ได้"

คุณพ่อจ้องหน้าเคนชิโร่อย่างบังคับ สายตาไม่ได้ล้อเล่น มันดูน่ากลัวแต่แฝงไปด้วยความห่วงใย

"ไม่ ผมไม่กิน ผมอยากตายอยู่ตรงนี้ ..แค้กๆ.. ในเมื่อไม่มีใครรักผมแล้ว จะมีชีวิตอยู่ไปท.."

เพียะ!!

ใบหน้าที่เคยหล่อเหลาหันควับตามแรงตบก่อนที่จะพูดจบ แสบไปทั้งแก้ม เลือดกกปากด้วย เด็กชายหันกลับมาพร้อมความแค้นและงุนงง แต่ก็หายไปเพราะสิ่งที่เขาเห็นคือ

น้ำตา

พ่อเขากำลังร้องไห้อยู่

"ทำไม... ทั้งๆที่ พ่อแม่ออกจะรักลูกจะตาย.. ทำไมโง่หยั่งงี้"

"คุณพ่อ.."

เคนสุเกะพุ่งเข้ากอดผู้เป็นพ่อในทันที ทั้งสองร้องเสียงดังมากด้วยจนคนที่สลบอยู่ตื่นขึ้น คนเป็นแม่ไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมพ่อลูกร้องไห้กอดกันอยู่ เพราะเมื่อกี้สลบไป แต่ช่างเถอะ

คุณแม่โผเข้าไปกอดอีกคน ทั้งสามคนร้องไห้กันอยู่เป็นเวลาเกือบ 2 ชม.



สามคนพ่อแม่ลูกนั่งปรึกษากันอยู่ในห้องรับแขก เคนสุเกะแปลกใจเข้าไปอีกเมื่อทางฝ่ายพ่อแม่เขารู้เรื่องที่ทาเคชิทำอะไรกับเขา คุณแม่เล่าว่าหลังจากวันนั้นที่ลูกไม่ยอมออกมาตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ทาเคชิก็ได้เข้ามาเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง ตอนแรกคุณพ่อโกรธมากต่อยไปไม่ยั้ง คุณแม่ต้องเข้าไปห้าม เพราะฝ่ายทาเคชิเองไม่ได้ปัดป้องหรือตอบโต้เลยแม้แต่นิด ไม่แม้แต่บอกให้หยุด ต่อยจนทาเคชิสลบไปแล้ว พอเล่าถึงตรงนี้ แม่ก็บอกว่า

"แม่กลัวพ่อติดคุกต่างหาก ไม่ใช่กลัวเขาตาย เพราะมันทำกับลูกรักของแม่หยั่งงี้"

ซักพักหลังจากเขาฟื้นตัว เขาก็บอกว่าเขารักลูกมาก และยอมทำทุกอย่างที่ทำได้ให้ลูกยอมให้อภัยเขา แค่นั้นแหละ คุณพ่อก็จะเริ่มยกสองทันที จนแม่ต้องไล่เขาออกนอกบ้าน แต่ยังรู้สึกดีว่า เด็กชายคนนี้ยังมีความรับผิดชอบชั่วดี

มีที่ไหน ถ้ามี เขาก็คงไม่ทำอย่างนั้นหรอก เคนสุเกะคิด

และหลังจากนั้นเขาก็มายืนรอลูกอยู่ทุกวันๆ จนพ่อแม่ให้อภัยเขาแล้ว

"แต่ผมไม่ให้อภัย" ตอบเสียงแข็ง

"นี่มันก็เรื่องของลูก แม่ไม่มีสิทธิ์ไปห้ามลูกได้หรอก"

คุณแม่กล่าวยิ้มๆ คร่าวนี้คุณพ่อเอ่ยปากบ้าง

"แต่ยังไงลูกต้องไปโรงเรียนน่ะ พรุ่งนี้ด้วย ทางโรงเรียนเสนอข้อตกลงอะไรมาก็ไม่รู้ ทำพ่อตกใจหมด เค้าบอกว่าถ้าลูกไม่ไปพรุ่งนี้ ลูกจะโดนไล่ออก และถ้าลูกไปร.ร.พรุ่งนี้ เค้าจะให้เรียนฟรีเป็นเวลาหนึ่งปี"

ชายหนุ่มทำหน้าตลก เรียกรอยยิ้มให้แม่ลูก

เคนสุเกะพอเดาออกว่าทำไม แต่ส่วนคุณพ่อคุณแม่ยังงงเต้กอยู่

โครกกกก

พอหายเศร้ากระเพาะก็ถามหาทันที สีแดงขึ้นเรื่อๆบนใบหน้าผอมซูบอันนั้น

"แม่ครับ ผมหิวแล้ว"
ห้าวันแห่งการทรมานได้สิ้นสุดลง เคนสุเกะโทรไปคุยกับนานะแล้วก็ปรับความเข้าใจกัน ตกลงว่าคนที่เคนสุเกะควรจะแค้นคือนายฝรั่งหน้าโฮ่งที่แอบเอาของๆเขาไปนั้นเอง คร่าวนี้เขาเลยกระชับนักหนาว่าอย่าไปคุยกับมันอีก ซึ่งนานะก็เห็นด้วยอย่างดี อนาคตจบลงแล้วสำหรับสตีเว่นของเรา ไม่มีใครสนับสนุน ไม่มีใครรัก เหอๆ เคนจังหัวเราะในใจ จบไปแระสำหรับปัญหาหลัก ปัญหาต่อไป

ทาเคชิ

วันนี้หนุ่มร่างสูงก็มายืนรอหน้าบ้านเธออีกแล้ว ด้วยสีหน้าเหมือนเดิม ท้อแท้และซูบซีดท่ามกลางสายฝน เสื้อผ้าดูไม่ดีเท่าที่ควรเพราะเจ้าของเสื้อไม่ได้ใส่ใจกับมัน วันนี้น้องเคนจังคงไม่มาอยู่ดี จะรอทำไมหล่ะ ไม่สิ เพราะเราแท้ๆที่ทำให้เธอเป็นหยั่งงั้น ต้องรอแม้ว่าจะป่วยตายก็ตาม

แอ้ด...

เสียงเปิดประตูดังขึ้นท่ามกลางสายฝน ร่างสูงตาโตเป็นไข่เต่า มือหนาขยี้ตาอย่างหนัก เขาสัญญาว่าเห็นน้องเคนจังเดินออกมาจากประตู ไร้สาระน่า ลูกตาเหงซวย และเขาก็ได้คำตอบเดิมอีกครั้ง ร่างบางของเด็กสาวเดินถือร่มมาหาเขา ทำเอาชายหนุ่มแทบลมจับทันที

ถ้าแม่ไม่บอกว่าให้เอาร่มไปรับนายบ้านี่หน่ะ ไม่มีทางหรอกที่แกจะได้รับน้ำใจจากฉัน

แม้ว่าใจจริงจะคิดตรงกันข้ามก็ตาม

เด็กสาวกระชากแขนเสื้อของชายหนุ่ม เป็นสัญญานว่า เลิกอึ้งได้แล้ว นายบ้า ทำเอาชายหนุ่มตื่นจากภวังค์ มองร่างคนที่เขาคิดว่าจะไม่มีโอกาศได้เดินด้วยกันอีก ร่างสูงเกิดอาการเลิ่กลักที่โชคดีได้เดินอยู่ใต้ร่มกับเคนจัง ฝันไปหรือเปล่า ชายหนุ่มหยิกแก้มตัวเองอย่างแรง ตามด้วยรองน้ำฝนที่ไหลลงมาตามร่มแล้วสาดใส่หน้าตัวเอง เผื่อว่าจะตื่นจากฝันที่ดีเกินกว่าที่จะเป็นจริง แต่ก็ไม่ตื่น อาการของรุ่นพี่ของเด็กสาวเรียกรอยยิ้มให้ปรากฏที่มุมปากของเธอ

เพียะ!!

หน้าหล่อซีดหันตามแรงตบ

นี่คือรอยตบที่ฉันได้จากพ่อ เพราะนาย

ชายหนุ่มหันกลับมาลูบแก้มตัวเอง มองเคนจังที่กำลังจ้องเขาอยู่ คิ้วเรียวยาวเลิ่กขึ้นแบบกวนๆเล็กๆกับมือที่ง้างขึ้นไปอีก ซึ่งคงแปลได้ว่า ตื่นยังหล่ะ ถ้ายังจะได้ช่วยให้ตื่นอีกรอบ ซึ่งชายหนุ่มส่ายหน้าไม่รับทันทีแต่ก็สายไปแล้ว

เพี้ยะะะะะ!!!

แรงกว่าเดิมคร่าวนี้ร่างสูงเซทันที เธอจงใจตบเขา

นี้คือค่าตอบแทนที่ทำฉันก็อกแตกเป็นครั้งแรกในชีวิต

ขณะที่ชายหนุ่มยังไม่ทันได้ตั้งตัว หมัดหนักถูกซัดเข้าที่ท้องอย่างจัง

และหมัดนี้จากที่ผิดคำสัญญา

ทาเคชิทรุดลงบนถนนเปียก มือกุมท้องตัวเองใบหน้าย่นไปมาบ่งบอกถึงความจุกเต็มพิกัด ถ้าต่ำลงอีกไม่กี่เซนต์คงโดนอวัยวะแน่ๆ เขาเงยหน้ามองที่เคนจังและก็เห็นเธอง้างมือขึ้นอีกครั้ง ดวงตาหุบลงยอมรับกับสิ่งที่กำลังจะตามมา ยอมรับผิด ยอมทุกอย่างที่จะทำเธอพอใจ ยกโทษให้พี่เถอะเคนจัง

แต่สำผัสนุ่มกำลังลูบอยู่บนใบหน้าของเขาแทนที่แรงตบหรือต่อย เขาลืมตาขึ้นช้าๆ เขาเห็นเคนจังนั่งคุกเข่าลงตรงกับสายตา มือนุ่มลูบไปมาบนใบหน้าของเขา ประดั่งหยดน้ำตกลงบนพื้นที่แตกร้าวแห้งแล้ง มันเหมือนการรักษา รักษาทั้งบาดแผลและจิตใจ น้ำตาลูกผู้ชายได้ไหลพรูลงมาอีกครั้งเมื่อเด็กสาวยิ้มให้เขา มันดูสวยงามและจริงใจที่สุดที่เขาเคยเห็น ช่วงเวลานี้ที่เขาอยากจะหยุดลงเอาไว้ เก็บให้นานที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ ความสุขใจมันเอ่ยล้น มือใหญ่สั่นเงื้อไปแตะที่ใบหน้าหวานที่ตอนนี้ดูซูบลงไปนิด แต่เขาก็ไม่สนใจ แม้ว่าจะเหลือแค่กระดูกเขาก็ยังเต็มใจที่จะได้สำผัส

ความสุข ความอบอุ่น แล่นผ่านเข้ามือของเขาจากใบหน้าของเด็กสาว เธอไซร้มืออบอุ่นนั้นดั่งลูกแมวน้อย ตาหวานหลับตาพริ้มริ่มฝีปากสีชมพูยังยิ้มอยู่

และนี่คือคำขอบคุณที่แคร์ และห่วงเธอ

ทาเคชิแทบจะออกแตกตายคาถนน เม็ดฝนกลับกลายเป็นกลีบดอกซากุระในสายตาเขา มันสวยงาม ความตื้นตันใจมันแทบจะปะทุเป็นพลุวันปีใหม่ ร่างสูงทั้งร่างพุ่งเข้ากอดร่างเด็กสาวข้างหน้าทันที

เพี้ยะ!! ผัวะ!! ปึ้กๆๆ!!!

ทั้งหมัด ทั้งตบ ทั้งเท้าและบาทาที่เคลือบด้วยรองเท้าสูงแพง กระหน่ำลงใส่คนฉวยโอกาศเหมือนลูกเห็บ ลูกเห็บที่เม็ดเท่าแตงโม ตามด้วยการเอ่ยวาจาครั้งแรกจากเธอ ก่อนเดินจากไปอย่างไม่ใยดี ปล่อยให้ร่างสูงนอนเละตากฝนเหมือนหมาข้างถนน อกแตกสมใจ

"นายลามกจกเปรต"

แต่เขาก็ยังดีใจ
ใช้ร่วมกัน:

Tokyo

Tokyo is the capital of Japan.