แบบฝึกหัดรักบทที่ 6

Go to download
#1

วันหยุดอันแสนธรรมดาๆ (แต่ไม่ธรรมดาสำหรับบางคน)
กิ้งก่องๆ

เคนสุเกะกดออดแล้วยืนรอสักพัก ประตูไม้สีมะฮอกกานีบานใหญ่ลูกบิดสีทองอร่ามก็เปิดออก แล้วดวงตาของเขาก็เกือบพร่าไป เมื่อโดนประกายรัศมีดาราจับวับวาวจากซาเอริ แม่ของนานะที่ยืนยิ้มแย้มทักทาย ร่างสูงก้มลงมาใกล้ๆ

“ว่าไงจ๊ะหนูเคน มาเล่นกันนานะเหรอ แต่เช้าเลยนะวันนี้ ฮิๆ รักกันจังเลย น้าชักอิจฉาซะแล้วสิ”

หล่อนขยี้ศีรษะเด็กชายด้วยความเอ็นดู เขายิ้ม ในใจคิดว่า

สาวสะพรั่งเต็มตัวก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบแฮะ ชักอยากชวนเธอไปทำอะไรๆ สองต่อสองจัง หุหุ

แต่ซาเอริเข้าใจผิดว่าเคนสุเกะกำลังเขิน เลยดันหลังเขาเบาๆ ให้เข้าไปในบ้าน พลางเรียกลูกสาวเสียงดังว่า

“นานะจัง ดูซิใครมาเอ่ย เป็นหนุ่มหล่อซะด้วยน้า เขามาเล่นกับลูกแน่ะ ดีใจมั้ย”

ทว่าไม่มีเสียงขานรับ ซาเอริเลิกคิ้วสงสัย หล่อนจูงมือเคนสุเกะเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น แล้วก็เห็นว่านานะกำลังดูโทรทัศน์อยู่ ร่างเล็กบางแทบจะจมไปกับโซฟา โดยไม่ละสายตาหันมาสนใจทางนี้เลยสักนิด

“นานะจัง แม่เรียกทำไมไม่ตอบล่ะจ๊ะ แหม มัวแต่ดูการ์ตูนอยู่ได้ ดูซิเนี่ย เคนจังอุตส่าห์มาหานะ”

เธอเหลือบมองแป๊บหนึ่ง แล้วกลับไปจ้องจอโทรทัศน์ต่อ

แม่ลูบไล้ผมนานะ หันมาส่งสายตาเป็นเชิงขอโทษ แล้วพาเคนสุเกะเดินมาที่หน้าประตู พูดเสียงค่อยว่า

“นานะอารมณ์ไม่ค่อยดีน่ะ เห็นไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจามาหลายวันแล้ว อย่างกับงอนใครมาก็ไม่รู้ เฮ้อ.. ปกติแกก็ออกจะร่าเริงแจ่มใสอยู่หรอกนะ น้าน่ะกลุ้มใจจัง นี่น้าก็ไม่ค่อยจะมีเวลาให้แกซะด้วยสิ แล้วเดี๋ยวน้าต้องรีบไปทำงานถ่ายละครด้วย”

หล่อยยกข้อมือดูนาฬิกาพลางเปิดประตูบ้าน ชุดสวยแสนเฉิดฉายพลิ้วดูอ่อนนุ่ม หอมกลิ่นน้ำหอมราคาแพงจากยุโรป

“เอ่อหนูเคนจัง ถ้ายังไงวันนี้น้าฝากหนูช่วยอยู่เป็นเพื่อนนานะด้วยนะ คงมีแต่เคนจังแล้วละมั้งที่จะกล่อมนานะได้” แล้วเธอก็ถอนหายใจ “เห็นเรียบร้อยอย่างนี้ บทแกจะดื้อขึ้นมาก็เอาเรื่องเหมือนกันนะ”
“ไม่เป็นไรฮะน้าซาเอริ เดี๋ยวผมช่วยดูแลนานะจังเองฮะ คุณน้าไปต้องเป็นห่วง”

ซาเอริยิ้มดีใจ ก้มลงมาจูบเขาหนึ่งที รอยลิปสติกติดที่แก้ม

“ขอบใจจ้ะ น้าโชคดีจัง ที่หนูเคนจังดูเป็นผู้ใหญ่กว่าลูกน้าเยอะ หนูกับนานะนี่สนิทกันเหมือนกับเป็นพี่น้องคลานตามกันมาเลยนะ เอาละ ถ้ามีหนูเคนจังอยู่ด้วยน้าก็เบาใจ งั้นก็ฝากด้วยนะ น้าไปละ”

เคนสุเกะยืนส่งซาเอริจนเธอขับรถลับตาไป แล้วเด็กชายก็เดินกลับเข้ามาในบ้าน ตรงไปที่ห้องนั่งเล่น ถอนหายใจนิดหนึ่งก่อนจะนั่งลงติดกับนานะ

“นี่นานะจัง เธอยังโกรธเคนเรื่องเมื่อวันก่อนอยู่อีกเหรอ”

เพียงแค่เห็นสีหน้าก็คาดเดาได้ ก็เคนสุเกะกับเธอโตมาด้วยกันนี่นะ แค่นี้ทำไมจะดูไม่ออก ว่าตอนนี้เด็กหญิงกำลังคิดและรู้สึกอย่างไร

“......” นานะไม่ตอบ เอาแต่ดูการ์ตูนแม่มดน้อยโดเรมี รายการโปรดของเธอ ที่ต้องดูเป็นประจำทุกเช้าหลังอาหาร

“นี่นานะจังอย่าเอาแต่เงียบสิ เคนไม่สบายใจเลยนะ” เด็กชายเริ่มร้อนรน

เด็กหญิงผมสีน้ำตาลเกือบดำทำเป็นไม่สนใจ เพราะเธอกำลังงอนสุดฤทธิ์ ดังนั้นเคนสุเกะก็เลยต้องรับบทเป็นฝ่ายงอ ด้วยการรีบผลุงลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ปลายเท้านานะ เอาหน้าแนบกับตักที่โผล่พ้นมินิสเกิร์ตชายบานสีเหลือง จับเข่าคู่นวลนิ่มไว้ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเต็มที่

“นานะจังจ๋า เคนผิดไปแล้วนะ ก็ตอนนั้นกำลังโมโหนี่ เคนไม่ชอบให้นานะจังชมคนอื่น ใจจริงเคนไม่ได้อยากให้นานะไปเป็นแฟนพี่ทาเคชิซะหน่อย”

เด็กหญิงยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ที่จริงนานะก็รู้นิสัยเขากระจ่างราวกับรู้ลายมือของตัวเอง แต่เธออยากจะทำเป็นงอนอย่างไม่มีเหตุผล เพราะอดน้อยใจเล็กๆ ไม่ได้ ที่เขาทิ้งเธอให้กลับบ้านคนเดียวมาหลายวันแล้ว

เคนสุเกะเห็นท่าทีอย่างนั้นก็ยิ่งใจเสีย เงยหน้าจากตัก เขย่าหัวเข่าเด็กหญิงอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“โธ่นานะจัง พูดอะไรบ้างสิ เคนจะทนไม่ไหวอยู่แล้วนะ ยกโทษให้เคนเถอะ นะๆ ขอโทษๆๆๆ”

นายเสือน้อยสุดแสบกลายเป็นแมวหงอไปทันที ในโลกนี้คงมีเด็กหญิงนานะเพียงคนเดียวแล้วล่ะมั้ง ที่ไม่กล้าหือด้วย และยอมได้ทุกอย่าง ขอแค่อย่าให้เธอเกลียดเขาก็พอ

นานะเห็นน้ำตาเคนสุเกะเริ่มคลอหน่วย ใจก็เลยอ่อนยวบ โน้มหน้าเอาปลายจมูกแตะปัดๆ บนจมูกนุ่มๆ ของเขา แล้วกล่าวว่า

“เอาเถอะจ้ะ เค้าไม่โกรธเคนจังแล้วละ แต่เคนจังต้องสัญญานะ ว่าห้ามพูดให้นานะไปเป็นแฟนคนโน้นคนนี้อีก แล้วเคนจังต้องอยู่เล่นเป็นเพื่อนนานะบ่อยๆ ด้วย เคนจังน่ะพักนี้ไม่ยอมมาเล่นกับเค้าเลย นานะเหงาจะแย่อยู่แล้ว”

เธอตัดพ้อเป็นการใหญ่ เคนสุเกะยิ้มแป้น ต่อมาก็สำนึกได้ว่าพักหลังๆ นี้เขาละเลยนานะไปจริงๆ เด็กชายซบหน้าลงกับหน้าตักนิ่มอีกรอบ ได้กลิ่นหอมประจำตัวนานะจัง จากภายใต้กระโปรงสั้นชะเวิบชะวาบ อีกแค่คืบก็เกือบเห็นผ้าสามเหลี่ยมด้านใน แต่เคนสุเกะหาได้สนใจไม่ เขากล่าวอย่างกระตือรือร้นว่า

“ตกลงๆ เคนสัญญานะ แล้ววันนี้เคนจะเล่นกับนานะทั้งวันเลย เล่นอะไรก็ได้ ตุ๊กตาก็ได้ ตามใจนานะจังทุกอย่างเลยละ”

“จริงนะๆ ถ้าอย่างงั้นก็ขึ้นมานั่งดูทีวีกับนานะตรงนี้ดีกว่า อย่าคุกเข่าอย่างนั้นเลย มันดูไม่ค่อยดีนะ เหมือนนานะกำลังข่มเหงรักแกเคนจังยังไงยังงั้นเลย”

เด็กหญิงหัวเราะฮิๆ ต่อจากนั้นเด็กทั้งสองคนก็ดูการ์ตูนด้วยกัน พอจบแล้วก็มีรายการละครซีรีส์ต่อ รายการนี้ถูกนำมาสร้างจากหนังสือนิยายขายดี พวกวัยรุ่นวัยทำงานรวมทั้งเด็กๆ ติดตามดูเป็นอันมาก และที่ฉายวันนี้ยังเป็นตอนที่พระเอกบอกรักนางเอก นานะนั่งลุ้นอย่างตื่นเต้นผมเปียแทบกระดิก พระเอกแสดงโดยนักร้องขวัญใจวัยรุ่น และยังเป็นนักร้องคนโปรดของเธอด้วย แล้วเมื่อทั้งคู่จูบกันอย่างดูดดื่ม นานะก็บีบมือเคนสุเกะแน่น แต่พอพระเอกเริ่มล้วงควักเข้าไปในร่มผ้าชุดนักเรียน มือหนึ่งเลื่อนตามขาอ่อนลึกเข้าไปในกระโปรง อีกข้างประคองปทุมถัน นางเอกส่งเสียงคราง เด็กหญิงถึงกับเม้มปากจ้องตาไม่กะพริบ ฉับพลันเด็กชายรีบกดรีโมตปิดฉับทันที

“อ๊า อะไรอ่ะ ปิดทำไมล่ะ โธ่เอ๊ยเปิดเถอะ เค้าจะดูต่อ” เธอประท้วง ทำท่าว่าจะแย่งรีโมต แต่เคนสุเกะรีบเอาไปซ่อนใต้เบาะ

“อย่าดูเลยไม่ดีหรอก ไม่เหมาะที่เด็กสิบขวบจะดูสักนิด”

“ไม่ๆ เค้าจะดูนี่ เคนจังเอารีโมตคืนมานะ” ทำหน้าขึงขัง “นานะอยากรู้นี่นาว่าคุณยูกิกำลังทำจะอะไรกับนางเอกนี่” เธอแบมือ

เด็กชายทำหน้ายุ่ง

“ก็อะไรซะอีกละ พวกเขาก็กำลังแสดงความรักต่อกันและกันไง เมคเลิฟน่ะ”
“เมคเลิฟ.. เมคแปลว่าทำ เลิฟแปลว่ารัก รวมกันก็ ทำรัก.. หมายถึงถ้าคนสองคนรักกันก็ต้องทำอย่างงั้นเหรอ” ถามด้วยใบหน้าไร้เดียงสา สงสัยเต็มที่

“เอ่อ กะ ก็ใช่..มั้ง” อึกอักตอบ

“เหรอ.. ถ้างั้นเราสองคนทำแบบนั้นมั่งดีมั้ยเคนจัง จูบปากกันแล้วก็กอดกัน แล้วก็เอ่อ.. จับหน้าอกเค้า”

นานะหน้าแดงแจ๋ เคนสุเกะอ้าปากค้าง พอได้สติก็รีบห้ามเสียงหลง

“ไม่ได้! ไม่ได้เด็ดขาดเลย!”

“ทำไมล่ะ ก็เค้าชอบเคนจังนะ แล้วเคนจังก็ชอบเค้า เราสองคนชอบกัน แล้วเอ่อ แล้วทำไมเราจะทำแบบนั้นบ้างไม่ได้ล่ะ อีกอย่างดูพวกเขาก็มีความสุขดีออก นานะอยากมีความสุขแบบนั้นบ้างนี่ หรือว่าจริงๆ แล้วเคนไม่ได้ชอบเค้าเลย ถึงไม่ยอมทำแบบนั้นบ้าง” แล้วเธอก็ทำหน้าน้อยใจ

เคนสุเกะมึนหัวตึบ ไม่รู้จะอธิบายยังไงดีไม่ให้ติดเรต ต้องโทษที่สื่อต่างๆ ชอบยัดเยียดสิ่งเหล่านี้ ทำให้เด็กและเยาวชนถูกมอมเมาให้ลุ่มหลงในเรื่องเพศก่อนวัยอันควร แต่เขาไม่อยากให้เธอรู้เรื่องนี้มากนัก (เอ่อ..ในเชิงลึกอะนะ) ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนก็คอยแต่หาโอกาสจ้องจะเคลมแม่เด็กนี่ แต่เดี๋ยวนี้เด็กชายกลับอยากให้นานะคงความน่ารักบริสุทธิ์สดใสแบบเด็กๆ อยู่อย่างนี้ต่อไป (ก็จนกว่าจะโตกว่านี้อีกหลายปีแหละ)

“นี่นานะจัง นายเรื่องแบบนั้นน่ะ มันเป็นการแสดงความรักต่อกันของพวกผู้ใหญ่เขา เด็กๆ อย่างเราทำไม่ได้หรอก มันเป็นข้อห้ามนะ ไม่อย่างนั้นพวกผู้ใหญ่จะโกรธเอามากๆ เลยถ้ารู้เข้า”

“อ้าว แล้วทีวันนั้นเคนจังยังเอ่อ.. ละ เลียน้องหนูของนานะ แล้วยังจะ เอ่อ.. จะ จับของนานะอยู่เลย”

“กะ ก็ตอนนั้นเคนยังไม่รู้นี่ ตอนนี้รู้แล้วก็เลยไม่ทำอีก แล้วเคนจังไม่อยากถูกพวกผู้ใหญ่ว่าเอาด้วย”

เด็กหญิงทำหน้ามุ่ย

“ไม่ค่อยยุติธรรมเลยเนอะ แต่ถ้าพวกผู้ใหญ่ห้าม เราก็ต้องเชื่อฟังละ แต่นานะก็อยากมีความสุขกับความรักบ้างนี่”

“เอาน่านานะไม่ต้องเสียดายไปหรอก แต่รู้มั้ย เด็กๆ อย่างเราๆ ก็มีวิธีแสดงความรักต่อกันนะ”

“เอ๋ จริงนะ ทำยังไงล่ะ?” ถามอย่างขมีขมัน

เคนสุเกะกระเถิบมาใกล้ๆ แล้วโอบกอดนานะไว้

“ก็นี่ไงวิธีแสดงความรักแบบที่เด็กๆ ก็ทำได้”

นานะจังชอบใจอมยิ้มแก้มตุ้ย เมื่อสัมผัสได้ถึงไออุ่นอันอ่อนโยน ข้างในตัวเธอรู้สึกอบอุ่นขึ้น และเบาสบายจนเหมือนกับเป็นลูกโป่งล่องลอยไปในอากาศ

“ชอบจังที่เคนจังกอดเค้า”

“อืม เคนก็ชอบ แต่ว่านานะจังห้ามทำอย่างนี้กับผู้ชายคนอื่นนะ”

“จ้ะ! นานะจะไม่ให้ใครกอดนอกจากเคนจังคนเดียว”

เคนสุเกะยิ้มแป้น ปลายจมูกของเด็กทั้งสองคนถูกัน ใบหน้าของพวกเขาห่างกันแค่ไม่กี่มิลลิเมตร เขาหักห้ามใจที่จะไม่ใช้ปากแตะไปบนริมฝีปากอ่อนเยาว์ ทั้งๆ ที่มีลมอุ่นพ่นอ้อยอิ่งอยู่เหนือปากของเขา เด็กชายเก็บจูบแรกของนานะไว้เป็นอย่างดี

“นี่ก็เป็นวิธีความรักเหมือนกันใช่มั้ย” เธอถาม

“ช่าย และเฉพาะแต่เราสองคนด้วยนะ”

แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะกันอย่างมีความสุข



ที่บ้านของทาเคชิ ในห้องส่วนตัว

“อู๊ย.. นะ นี่เธอทำอะไรของ ธะ เธอ”

“แหม ก็ทำให้นายมีความสุขสุดๆ น่ะสิ”

“อ้า..”

เด็กชายเจ้าของห้องถึงกับครางสยิว เมื่อถูกมือเรียวเล็กลูบไปบนเป้ากางเกงใน ส่วนกางเกงตัวนอกนั้นถูกถอดไปกองอยู่ที่ข้อเท้า โทโมโยะเด็กหน้าตาสะสวยเลียริมฝีปากอย่างยินดี ที่ทำให้เพื่อนชายซึ่งเรียนมาด้วยกันตั้งแต่ ป.หนึ่งชอบ ตรงหัวที่ซ่อนตัวอย่างแข็งขันเริ่มเปียกเยิ้ม

“ดีมั้ยทาเคชิคุง”

“อะ เอามือออกเหอะ อย่า ทะ ทำอย่างนี้เลย” เด็กชายบอกเสียงสั่นๆ

“อยู่เฉยๆ เหอะน่า เดี๋ยวก็จะติดใจนะ”

ว่าแล้วก็ล้วงเข้าไปในขอบกางเกงใน แล้วควักเอาแท่งไอติมออกมารับลม โทโมโยะทำตาโต

“ว้าว ใหญ่ชะมัด” เธอคิดในใจว่าใหญ่กว่าของเคนสุเกะอย่างเทียบไม่ติด แถมยังขลิบแล้วอีกต่างหาก

นิวมือถูบี้ตรงหัวเห็ดแดงผงาด ทาเคชิเกร็งตัวด้วยความเสียวสะท้าน มือเล็กกำแล้วกระตุกสาวขึ้นลงตามความยาว จากช้าๆ ก็เริ่มเร็วขึ้น หนุ่มน้อยแหงนหน้าแอ่นหลังพิงกับขอบเตียง สักพักโทโมโยะใช้นิ้วโป้งกับชี้ทำเป็นวงแล้วรีดจากโคนขึ้นมาที่ปลายคอดหยัก ทำให้ดอกเห็นบานๆ บวมๆ

“อ๊ะโอ๊ ทะ โท..โม..โยะ!” เขากัดฟันแน่น
ดาวโรงเรียนประถมทำหน้าหื่นๆ ขาอ่อนหนีบกันแน่น ตรงเป้าของเธอแฉะไปหมด เด็กหญิงโน้นหน้าลงไปใช้ลิ้นแตะปลายท่อ ทาเคชิซู๊ดปากแอ่นก้น เธอจับไอติมแท่งโตเกินเด็กไว้มั่น ตวัดลิ้นวนรอบหัวเห็ดบาน มันอุ่นผ่าวและเต้นตุบๆ ลื่นๆ โทโมโยะอ้าปากสวยแล้วอมเข้าไปช้าๆ ทาเคชิตัวสั่นเทิ้มเมื่อรู้สึกถึงริมฝีปากกับลิ้นนุ่มๆ อุ่นๆ เด็กหญิงครูดไปมาบนผิวหนังอ่อนรอบแท่งกลางตัว เธอระวังไม่ให้ฟันไปโดน ห่อลิ้นรับไอติมที่ตอนนี้เด็กชายยกสะโพกขึ้นลงอย่างลืมตัว จนทะลวงเข้าไปสุดคอหอย ทำท่าจะสำลักนิดหนึ่ง ต่อจากนั้นก็ดูดเน้นๆ แรงๆ จนเสียงดังบ๊วบๆ หนุ่มน้อยขนลุกเกรียว รู้สึกเหมือนเขื่อนกำลังจะแตกเสียให้ได้

เด็กหญิงเห็นอาการก็ถอนปากออก แต่มือยังชักขึ้นชักลงเสียงดังผล็อกๆ รีดลำปืนที่กำแทบไม่รอบ ลื่นเป็นมันวาว ดอกเห็ดขยายบานเป่งหลายเท่า ปากที่เยิ้มก็ถามไปว่า

“เป็นไง นี่ฉันแอบศึกษาดูในวีดีโอของพี่ชายมาตั้งหลายแผ่นเชียวนะ รับรองว่าลีลาไม่แพ้น้องเคนคุงหรอกน่า”

ทาเคชิที่กัดริมฝีปากจนห้อเลือดก็ถึงกับชะงักอารมณ์ ใบหน้าหวานของเด็กคนนั้นผุดขึ้นมา เขารีบปัดมือของดาวโรงเรียนออกไปให้พ้นจากไอติมแท่งโต

“ยะ หยุดนะ ฉันไม่ยอมให้เธอทำอะไรบ้าๆ แบบนี้กับฉันหรอก”

“อะไรนะ นี่เธอเป็นบ้าอะไรของเธอ ทาเคชิคุงตะกี้เธอเองก็ชอบไม่ใช่เหรอไง” โทโมโยะเบิกตาอย่างงงงวยแกมโมโห

ทาเคชิไม่ตอบทันที เขารูดกางเกงในสีฟ้าสวมกลับเข้าที่เดิม แต่กระนั้นปิดปลายกระบอกปืนที่แข็งเต็มที่ได้ไม่มิด คงต้องใช้เวลาสักพักกว่ามันจะอ่อนตัวหดกลับเข้าไปได้

“ก็ถูก เมื่อกี้ฉันยอมรับว่ามันสนุกสุดๆ ไปเลย แต่ว่าฉันไม่ได้ต้องการอะไรแบบนี้เลยนะโทโมโยะ”

“ทำไมล่ะ อ้อ..หรือว่าเป็นเพราะเจ้าเคนสุดแสบใช่มั้ย ฉันสู้มันไม่ได้งั้นสิ” เธอตะเบ็งเสียง

“ไม่ใช่! แล้วเธออย่างพูดถึงน้องเคนจังแบบนั้นนะ ฉันไม่เคยมีอะไรกับหล่อนเลย แต่ฉันรักน้องเค้าจริงๆ และไม่อยากนอกใจเธอ”

“ทาเคชิ! แต่ฉันชอบเธอนะ ชอบมากๆ ด้วย ชอบมาตั้งแต่ป.หนึ่งแล้ว แล้วเธออย่าคิดว่าฉันเป็นเด็กใจง่ายที่ทำอะไรแบบนี้กับเด็กผู้ชายคนไหนก็ได้นะ ฉันน่ะยอมทำทุกๆ อย่างเพื่อเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น”

แล้วเด็กหญิงก็ซบหน้ากับฝ่ามือ ร้องไห้กระซิก เด็กชายได้แต่ทำหน้ากระอักกระอ่วนไม่รู้จะตอบเธออย่างไรดี ทั้งที่ก็รู้ว่าเสี้ยวหนึ่งในใจก็แอบชอบโทโมโยะอยู่เหมือนกัน



ตอนเย็นของวันเดียวกัน เคนสุเกะเดินไปส่งนานะที่บ้าน หลังจากชวนเธอไปทานอาหารเย็นกับพ่อแม่ของเขาด้วยกัน ฟ้ามืดเบื้องบนคำรามครืนเบาๆ ฝนใกล้ตก เขาโบกมือลาเสร็จสรรพก็กลับไปอาบน้ำอาบท่า เปิดอินเตอร์เน็ตเพื่อเข้าไปในเวปบอร์ดการเงินและการลงทุน ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันยามว่างก่อนเข้านอน เล่นได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแม่ก็มาเคาะประตูเรียกแล้วยื่นโทรศัพท์ไร้สายภายในบ้านให้ แล้วบอกว่านานะจังโทร.มา เด็กชายสงสัย เพราะเพิ่งแยกจากเธอไม่ถึงสองชั่วโมงดี

“ฮัลโหล”

“เคนจัง มะ มา ที่บ้านหน่อยสิ” น้ำเสียงของเธอแปลกไป

“ทำไมล่ะ” เคนสุเกะขมวดคิ้ว “นี่ก็สองทุ่มแล้วนะ แล้วฝนตกหนักออกอย่างงี้เคนจะไปได้ยังไง”

เขามองออกไปนอกหน้าต่าง สายฝนสาดกระทบกระจกราวเสียงรัวปืน แล้วสายฟ้าก็ฟาดเปรี้ยงเสียงดังสนั่น พร้อมๆ กับเสียงหวีดร้องจากสายโทรศัพท์

“ว้าย!”

เคนสุเกะเบิกตากว้าง เด็กชายนึกออกแล้ว นี่เขาลืมไปได้อย่างไรกันนี่ บ้าจริง!

“แป๊บนึงนะ นานะจังรอเคนแป๊บเดียว”

แล้วเคนสุเกะก็วางสายทันที โดยไม่ถามเลยว่าเธอโทร.มาทำไม เขารีบเปิดประตูวิ่งลงบันได หยิบร่มหน้าประตู แม่ชะโงกหน้าถาม

“จะไปไหนจ๊ะ ดึกดื่นป่านนี้แล้ว พายุเข้านะจ๊ะลูก”

“ก็เพราะพายุนั่นแหละฮะ ผมถึงต้องไปบ้านนานะโดยด่วน คืนนี้ผมค้างบ้านนั้นนะหม่ามี้ ไปละ” พูดอย่างเร็วแล้วรีบออกไปทันใด โดยไม่รอเสียงทัดทานจากมารดา หล่อนบ่นพึมแล้วก็ทำหน้าเหมือนนึกขึ้นได้

“อ้อ จริงด้วยสิ ช่างเถอะๆ”
เคนสุเกะยืนตัวเปียกอยู่ที่หน้าบ้าน แสงไฟสีขาวสาดส่องตัดความมืด เขากดออดปุ๊บประตูก็เปิดพลั้วะทันทีเหมือนว่ามันกำลังรอสัญญาณอยู่ใจจะขาด

“เคนจัง!”

นานะโผเข้ากอดเขาจนแทบหงายหลัง ร่างน้อยนุ่มนิ่มกำลังสั่นเทา เด็กชายลูบหัวเธอไปมา

“โอ๋ๆ อย่ากลัวนะ เคนมาแล้ว ขอโทษนะเคนไม่น่าลืมเลย”

“มะ แม่โทร.มา บอกว่า วะ วันนี้ไม่กลับ ฟ้ากะ ก็ผ่าเสียงดังมากเลย” เสียงของเด็กหญิงสั่นไหว

ที่แท้ นานะจังกลัวพายุฝนฟ้าคะนองมาก กลัวเสียงฟ้าฝ่าฟ้าร้องมาตั้งแต่เด็กเล็กๆ แล้ว และทุกครั้งหากไม่มีคุณแม่ซาเอริอยู่ปลอบ เคนสุเกะจึงเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดรองลงมา

เด็กชายดันไหล่นานะออกมา ใช้ปลายจมูกปลอบ แสดงความห่วงใย จมูกถูกันจนหนำใจแล้ว เด็กหญิงก็ยิ้มออกมาได้

“ขะ ขอบใจนะ เคนจังตัวเปียกหมดเลย เดี๋ยวไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้องเค้านะ”

“อืมไปสิ ไงก็คืนนี้เคนต้องนอนเป็นเพื่อนนานะอยู่แล้ว”

นานะคลายความกังวลลงไปได้บ้าง เธอจูงเดินนำเขาขึ้นไปชั้นสอง มือเด็กหญิงสั่นนิดๆ

“อ้ะ เคนใจใส่ตัวนี้ก็แล้วกัน”

นานะโยนชุดนอนของเธอให้ เคนสุเกะรับมาก็ทำหน้าเบ้เล็กน้อย เป็นชุดนอนปิจามาสีหวาน เสื้อกับกางเกงผ้าบาง ไม่มีลวดลายบนเนื้อผ้า

เด็กชายถอดเปลี่ยนเสร็จแล้ว นานะก็หยิบผ้าขนหนูมาเช็ดผมเปียกลู่ให้แห้ง เส้นผมของเขาเหมือนจะยาวขึ้นกว่าเดิมเมื่อชุ่มด้วยน้ำ

“โห เคนจังตอนนี้หน้าว้านหวานเหมือนเด็กผู้หญิงเลย นี่ถ้าไว้ผมยาวมากๆ นะ รับรองว่าเด็กผู้หญิงในห้องไม่มีใครสวยสู้เคนจังได้ซักคน ฮิๆ”

เคนสุเกะทำหน้ายู่ บ่นว่า

“ไม่เอาอ่ะ เคนไว้ผมสั่นน่ะดีแล้ว เคนไม่อยากเป็นเหมือนผู้หญิง ถ้าเคนเป็นอย่างนั้นก็ชอบนานะจังไม่ได้น่ะสิ”

เชาสบตาเด็กหญิงตรงๆ เธอเขินจนแก้มแดงระเรื่อ นานะน่ารักมากๆ ในชุดปิจามาชิ้นเดียวแบบกระโปรงยาวอย่างที่เด็กฝรั่งไฮโซชอบใส่นอนกัน มันผ้าฝ้ายสีขาวพลิ้วบางนุ่มนิ่มน่าสัมผัส คอกว้างลึก มีระบายลูกไม้และโบว์ แขนพองฟูแบบตุ๊กตา เธอปล่อยผมสลายยาวเคลียหลัง เคนสุเกะมองด้วยหัวใจพองโต

“เอาละแห้งแล้ว”

นานะบอกหลังจากใช้ไดร์เป่าผมเด็กชายจนแห้ง เธอกระโดดขึ้นเตียง นาฬิกาบอกเวลาสามทุ่ม เหมาะที่เด็กประถมอนามัยควรจะนอนได้แล้ว

เคนสุเกะปิดไฟตรงผนังข้างประตู นานะเปิดไฟสีเหลืองนวลตรงหัวเตียง ฟ้านอกหน้าต่างสว่างวาบตัดความมืดของรัตติกาลเป็นพักๆ พร้อมกับเสียงคำรามครืนๆ ทุกครั้งที่เด็กหญิงสังเกตเห็นฟ้าแลบ เธอจะรีบอุดหูรอไว้ก่อนทันทีที่ฟ้าจะผ่าตามมาในเวลาอันใกล้

เด็กชายอมยิ้มกับท่าทางของนานะ เธอทำคอย่นหลับตาปี๋ นี่ยังดีนะที่มีเขาอยู่ด้วย ถ้าหากอยู่คนเดียวแล้ว นานะต้องหวีดร้องออกมาสุดเสียงแน่ๆ

นานะกระเถิบไปนอนชิดฝนังติดวอลเปเปอร์ด้านใน ดึงผ้าห่มมาคลุมถึงคอ เคนสุเกะแทรกตัวเข้าไปในผ้าห่ม นอนอยู่ริมนอก พวกเขานอนฟังเสียงสายฝนพรูพร่างพรมพื้นโลก เริ่มซาลงบ้างแล้ว เคนสุเกะรู้สึกว่านานะกำลังจ้องมองใบหน้าด้านข้างของเขาอยู่ เลยขยับหัวหันไปสบตอบ เด็กหญิงยิ้มเยื้อนอย่างน่ารัก ตะแคงข้างมาแล้วกอดเขา

“อืม อุ่นดีจัง นานะไม่กลัวแล้วละ”

“หึๆ ทุกทีสิน่า ฝนตกทีไร แต่ก็ช่างเหอะ เคนชินแล้วละ”

เคนสุเกะกอดตอบ เอาหน้าผากแตะกัน จมูกก็เลยชนกันอย่างช่วยไม่ได้ กลิ่นตัวของนานะหอมจรุงใจ ฟุ้งกำจายผสมกับกลิ่นสบู่อ่อนๆ อย่างไม่มีใครเหมือน ผิวกายของเธอเนียนลื่นน่าสัมผัสเอามากๆ

“เคนจัง”

“หืม..”

“เอ่อ ถ้าทุกครั้งที่เค้ากลัวขึ้นมา เคนจังจะอยู่ข้างๆ เค้าตลอดใช่มั้ย”
“อือ”

“แล้วถ้า..” นานะซุกไปยังซอกคอ “ถ้าเกิดพวกเราโตขึ้น เคนจังจะแต่งงานกับเค้ามั้ย”

“แน่นอนสิ เคนจะแต่งกันนานะจังคนเดียว” เด็กชายจูบไปบนเรือนผมนุ่มๆ เธอหลับตาพริ้ม

แขนของเด็กชายวาดไปบนแผ่นหลังโค้งบาง ด้วยความเคยชินจากอดีตชาติ มือของเขาจึงลูบไล้เลื่อนต่ำลงไปถึงก้นงามงอนเล็กๆ คู่นั้น แล้วเคนสุเกะก็รับรู้ว่าฝ่ามือของเขาหาขอบกางเกงในตัวน้อยไม่เจอ เลยขมวดคิ้วถามว่า

“นานะจัง.. นานะจังไม่ใส่กกน.นอนเหรอ”

ไม่ตอบทันที ดวงหน้าเด็กหญิงร้อนผ่าวจนเขารู้สึกได้ และยิ่งมุดหน้าลงไปอีก พูดเสียงเบาอย่างเขินอายว่า

“กะ ก็ เคนจังมาช้า ตะ ตอนฟ้าผ่าเสียงดังมากเลย เค้าก็เลยฉี่ราดกางเกงไปนิดนึง แต่นานะเอาไปตากไว้ในห้องน้ำแล้วนะ แล้วทีนี้เคนจังก็มาพอดี เค้าก็เลยลืมหามาใส่ใหม่น่ะ แหะๆ”
ใช้ร่วมกัน:

Tokyo

Tokyo is the capital of Japan.